กระเป๋าHandmade
กระเป๋าHandmade
เป็นกระเป๋าที่ทำมาจากมือ คือเป็นงานฝีมือไม่ได้ผลิตมาจาเครื่องจักร
งานกระเป๋าจึงมีความละเอียดมากกว่ากระเป๋าที่เย็บมาจากเครื่องจักร
มาจาโรงงาน รูปทรงของกระเป๋า วัสดุ ผ้าที่นำมาผลิตก็อาจจะมีคุณภาพไม่มีเท่าที่ควร
และงานเย็บของกระเป๋าที่มาจากโรงงานก็อาจจะเย็บไม่เรียบร้อยอีกด้วย
อาจทำให้กระเป๋าเสื่อมสภาพการใช้งานอย่างรวดเร็ว เพราะงั้นกระเป๋าHandmade จึงเป็นกระเป๋าเป็นชิ้นงานเป็นงานฝีมือ
ที่ขั้นตอนการทำต้องทำอย่างละเอียดมาก และนอกจากเราจะสามารถสร้างชิ้นงานได้แล้ว
การทำกระเป๋าHandmade ยังสามารถสร้างอาชีพ สร้างรายได้อีกด้วย
การทำกระเป๋าHandmade
นั้นเป็นงานฝีมืออย่างหนึ่ง
การเย็บในแต่ละขั้นตอนจะต้องมีความละเอียดมาก จะมาเย็บลกๆไม่ได้
เพราะเป็นงานฝีมือถ้าทำขายจะสร้างกำไรได้มาก
ทั้งนี้ต้องขึ้นอยู่กับรูปทรง
ขนาด ลวดลายของผ้า ชนิดของผ้าที่นำมาใช้ ซึ่งเป็นองค์ประกอบในการทำกระเป๋าHandmade
ถ้ารูปทรงและขนาดของกระเป๋าใหญ่และเย็บด้วยผ้าที่มีลวดลายสวยงาม มูลค่าของกระเป๋าใบนั้นก็จะสูงไปด้วย เพราะงั้นกระเป๋าHandmade
จึงเป็นอาชีพที่สร้างรายได้สูงอีกอาชีพหนึ่ง
นอกจากจะทำขายเป็นเป็นอาชีพแล้ว
อีกทางหนึ่งนอกจากทำขายแล้วที่จะทำให้มีรายได้อีกทางคือ
การเปิดสอนทำกระเป๋าHandmade นั่นเอง อาจจะเริ่มสอนจากคนใกล้ตัวเช่น เพื่อน
ญาติๆ แล้วถ้าเพื่อนหรือญาติๆ สนใน สนับสนุนก็อาจจะบอกต่อคนอื่น
ทำให้มีผู้คนสนใจจะมาเรียนทำกระเป๋าHandmadeจากเรา เป็นการเพอ่มรายได้อีกทางหนึ่ง
อย่างไรก็ดี ถ้าเรามีความรู้ความสามรถนี้ใช้ให้เกิดประโยชน์
ในการทำกระเป๋า Handmade เป็น เราสามารถทำกระเปาไว้ใช้เองก็ได้
ไม่จำเป็นต้องทำขายอย่างเดียว
เราสามารถเย็บกระเป๋าไว้ใช้เองมากที่สุดตามแต่ที่เราต้องการ ทำกระเป๋าตามแต่สถานการณ์ไว้ใช้ เช่น วันนี้ต้องไปทำงาน
กระเป๋าใบใหญ่ใส่สัมภาระท่าจะดี
หรือทำกระเป๋าใส่เศษสตางค์ไว้ใช้ก็ได้ เราสามรถทำกระเป๋าได้เองหลายทรง หลายใบ
หลายลวดลาย
ไม่ต่องเสียเงินทองไปซื้อกระเป๋าแพงๆ ที่พอใช้ไปได้ไปนานก็เบื่อหรือชำรุด
เราสามารถนำเอาความรู้ความสามารถของเราในทางนี้มาใช้ให้เกดประโยชน์ การทำกระเป๋าHandmade
ยังเป็นการใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์อีกด้วย
ดีกว่าเอาเวลาไปทำอะไรไร้สาระ เช่น เล่มเกมส์
การทำกระเป๋าHandmadeจะว่าไปแล้วนั้น ก็เป็นกิจกรรมที่ช่วยฝึกสมาธิอีกด้วย เพราะเวลาที่ทำเราจะต้องมีสมาธิ มีความอดทน ต้องใจเย็น ในการทำ เพราะถ้าเราไม่มีสมาธิในการเย็บชิ้นงานแล้ว อาจจะทำให้เกิดความผิดพลาดได้ เป็นเหตุให้ต้องมาเสียเวลาแก้ไขชิ้นงาน ต้องมีสมาธิ ความอดทน และต้องใจเย็นๆ เพราะในการทำชิ้นงานแต่ละชิ้นนั้นอาจจะต้องใช้ระยะเวลาในการทำมากกว่าปกติแล้วแต่ชิ้นงาน ถ้าขาดความอดทน ใจร้อน ชิ้นงานก็จะออกมาไม่ดี ไม่สวยงาม งานไม่ละเอียดปาณีตเท่าที่ควร ก็เหมือนที่เราจะทำอะไรสักอย่างก็ต้องพยายาม อดทน และทำสิ่งๆนั้นอย่างเต็มที่
อย่างไรก็ตามก่อนที่เราจะทำเป็นตัวเราเองก็จะต้องเรียนรู้
วิธีการทำถึงจะค่อยทำเป็น นี่เป็นอีกสิ่งหนึ่งที่เราทำแล้วเกิดประโยชน์
คือการที่เราเปิดสมองรับรู้สิ่งใหม่ๆ
หาข้อมูล ความรู้สิ่งใหม่ๆ
และเป็นประโยชน์กันตัว
การที่มีความรู้นั้นเป็นสิ่งที่ดี
เมื่อเราเริ่มเรียนรู้
เริ่มจาดพื้นฐาน ทำจนชำนาญ
จนทำแล้วกลายเป็นมืออาชีพ
ฝีมือในการทำกระเป๋าก็จะมีความละเอียดมากความผิดพลาดก็จะไม่มีหรือมีแต่น้อย ก็จะส่งผลให้คนที่มาซื้อกระเป๋าHandmade ของเรามีความพึงพอใจในชิ้นงานที่เราทำ
ก็จะมีครั้งต่อๆไปที่จะมีลูกค้าคนเดิมมาซื้อชิ้นงานของเรา
ละอาจจะไปบอกต่อๆกันว่าชิ้นงานของเรานั้นดีจริง แล้วอาจจะเปลี่ยนจากลูกค้าเป็นลูกศิษย์ก็เป็นได้ เพราะคนบางคนที่เค้าสนใจจริงๆ
อาจจะมาติดต่อสอบถามว่ามีการเปิดสอนไหม ถ้าเราสอนก็จะเป็นรายได้อีกทางหนึ่ง หรืออีกทางหนึ่ง
ถ้ามีเงินก็อาจจะเอามาลงทุนเปิดร้านเล็กๆ
ขายวัสดุอุปกรณ์ ในการทำงานฝีมือไม่ว่าจะเป็นผ้า หลายหลาย ลวดลาย สีสัน
หลายชนิด ไปจนถึงอุปกรณ์จำเป็นในการทำชิ้นงานประเภท
เย็บ ปัก ถัก ร้อย นอกจากเปิดขายอุปกรณ์แล้วยังเปิดสอนการทำกระเป๋าHandmadeควบคู่ไปด้วย
ถึงกระนั้นบางคนทั่วไปที่ไม่รู้ว่าชิ้นงานของกระเป๋าHandmadeนั้น
ยกตัวอย่างเช่น แค่ใบเล็กใส่เศษสตางค์ ราคา300บาท
ก็จะมองว่าทำไมแพงจัง
แต่ถ้าเป็นคนที่สนใจในงานฝีมือ งานHandmade
ก็จะมองว่าไม่แพงเลย เพราะค่าวัสดุที่นำมาผลิตนั้นนอกจากคุณภาพจะดีแล้ว
บวกกับค่าแรงที่เย็บด้วยมือแล้ว
แค่นี้ถือว่าไม่แพง ราคาพอประมาณ
ถ้าว่างๆอยากทำอะไรที่มีประโยชน์
การเรียนรู้และลองทำกระเป๋า Handmade ก็เป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่ดี สำหรับคนที่ชอบงานฝีมือและบุคคลทั่วไปที่อยากจะลองทำอะไร
คุณแม่ ของดิฉันเอง เป็นครูสอนทำกระเป๋า |
ภาพนี้กำลังสอนนักเรียน |
จากการลงพื้นที่สัมภาษณ์ คนที่ได้ไปสัมภาษณ์นั้น คือ คุณชุติมา
พูลพิพัฒน์ จากการสัมภาษณ์ คุณชุติมา ได้เริ่มทำกระเป๋าผ้ามาประมาณ 3 ปีกว่าแล้ว
เหตุผลในการทำคือ เป็นคนที่ชอบทำงานฝีมือแทบจะทุกอย่าง ชอบทำและชอบใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์ พอทำไปเรื่อยๆก็มีชิ้นงานมากขึ้น ก็เริ่มจำหน่าย โดยการขายให้เพื่อนๆบ้าง คนรู้จักบ้าง
จากปากต่อปาก กลายมาเป็นอาชีพปัจจุบัน แล้วรายได้ต่อเดือน จะขึ้นอยู่กับ ออร์เดอร์ที่ลูกค้าสั่ง
ขั้นต่ำจะอยู่ที่1หมื่นบ้านขึ้นไป สูงสุด คือ3หมื่นกว่าบาท และมีลูกค้าสั่งออร์เดอร์มากที่สุดก็ประมาณ 50 ชิ้นงาน
เป็นสินค้าขนาดกลางๆ
ระยะเวลาในการทำชิ้นงานแต่ละชิ้นงานจะใช้เวลาต่างกัน ขึ้นอยู่กับชิ้นงานมันเล็กหรือใหญ่ ยากหรือง่าย ถ้าชิ้นงานมันเล็ก ก็จะอยู่ราวๆ 1-2 วัน ถ้าใหญ่และยาก มีวิธีทำที่ซับซ้อนมากขึ้น
ก็ประมาณ 2อาทิตย์
เรื่องของต้นทุน
สินค้าทำมากจากวัสดุที่เป็นผ้า
ทั้งของไทยและผ้าต่างประเทศ
ถ้าลูกค้าระบุมาว่าต้องการผ้าชนิดไหน
ถ้าผ้าไทยก็ถูกหน่อย
ถ้าผ้าต่างประเทศราคาก็จะสูงขึ้นอีกประมาณ 50 เปอร์เซ็น
ของราคาผ้า
กระเป๋าขนาดกลาง |
ราคาของชิ้นงาน
-กระเป๋าใหญ่(ธรรมดา) ผ้าไทย
ราคาประมาณ 500-700บาท
-กระเป๋าใหญ่(ซับซ้อน) ผ้าไทยราคาประมาณ 700-1,000บาท
-กระเป๋าใหญ่
ผ้าต่างประเทศ ราคาเพิ่มขึ้นมาอีก50เปอร์เซ็น
-กระเป๋ากลาง 200-300บาท
กลุ่มนักเรียนที่มาเรียนทำกระเป๋ากับแม่ข้าพเจ้า |
-กระเปาเล็ก 100-150 บาท
*ราคานี้รวมวัสดุอุปกรณ์อื่นๆแล้ว เช่น ซิป ด้าย
ใยโพลีเอสเตอร์ อื่นๆ
ได้อะไรจากการทำงานนี้??
ที่แน่ๆเลย คือ ได้เงิน ถ้าทำขายเมื่อไร ได้ความรู้ความชำนาญ เมื่อชำนาญแล้วก็ไปรับจ้างสอน ได้ใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์ ได้ใช้ความคิดสร้างสรรค์ทำให้เกิดชิ้นงานใหม่ๆ
การใช้เครื่องจักรก็มีส่วนช่วยบ้าง
เครื่องจักรมีส่วนช่วย ในกรณีที่เป็นกระเป๋าใหญ่ก็ช่วยเย็บมุมให้ทรงกระเป๋าแข็งแรงหรือเย็บซิปติดประเป๋า |
หรือเย็บลวดลายให้กระเป๋าดูสวยงามยิ่งขึ้น |
กระเป๋าขนาดต่างๆ
กระเป๋าขนาดใหญ่ ด้านหน้า-ด้านหลัง |
กระเป๋าสตางค์ ด้านนอก-ด้านใน |
กระเป๋าใส่เศษสตางค์ ด้านนอก-ด้านใน |
ขออนุญาติใช้ข้อความข้างบนนะคะ ดิฉันก็ทำงานกระเป๋าผ้าแบบนี้เหมือนกันค่ะ แต่ขายยากมากๆเลยค่ะ เพราะลูกค้าส่วนใหญ่จะมองว่ามันแพง ทั้งๆที่เราตั้งใจทำมากๆ ละเอียดทุกขั้นตอน คือใส่ใจลงไปด้วยก็ว่าได้ พอมาเจอข้อความที่คุณโพส ็เลยคิดว่าน่าจะเอามาใช้ประโยชน์ได้ ดิฉันขะปริ๊นออกมา เอาไว้แจกให้ลูกค้าอ่าน เพื่อทำความเข้าใจว่าทำไม กระเป๋างานแฮนด์เมดถึงราคาสูงกว่ากระเป่าผ้าของแบรนด์อื่นที่ทำจากโรงงาน หรือนำเข้ามาจากจีนอ่ะค่ะ ยังไงต้องขอรบกวนนะคะ ขอบคุณมากๆค่ะ
ตอบลบ